เจมี่ คาร์ราเกอร์ นักวิเคราะห์ลูกหนัง สกาย สปอร์ตส์ มองว่าขุมกำลังเกมป้องกันของ ลิเวอร์พูล ทำการบ้านมาได้อย่างยอดเยี่ยมช่วงขาดผู้บัญชาการแนวรับอย่าง เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ เพราะทีมคงสามารถดันแผงแบ็กโฟร์สูงเช่นเดิมไม่รับลึกแบบถูกคาดการณ์
เวลาปกติที่มี ฟาน ไดค์ เป็นเซนเตอร์แบ็กทีม ‘หงส์แดง’ ดันแผงหลังมาถึงครึ่งสนามจังหวะสร้างเกมบุกเพื่อขึงพื้นที่เก็บบอลแดนบน แต่เมื่อแข้งดัตช์ผ่าเอ็นเข่าพักทั้งฤดูกาล 2020-21 หลายฝ่ายเชื่อว่า ผจก.ทีม เจอร์เก้น คล็อปป์ ต้องสั่งไลน์ถอนต่ำลงมา 10-15 หลา เพลย์เซฟไว้ก่อน
อย่างไรก็ตามภาพรวมจากเกมชนะ เลสเตอร์ 3-0 เมื่อสุดสัปดาห์แผงแบ็กโฟร์ของ ลิเวอร์พูล ก็ยังดันขึ้นสูง แม้ไม่เท่าตอนมี ฟาน ไดค์ แต่ก็ถือว่าหาได้ห้อยต่ำเพลย์เซฟ
จุดนี้ คาร์ราเกอร์ ชื่นชมทีมสตาฟฟ์ที่ทำการบ้านมาดี รวมถึงผู้เล่นเกมรับทุกคนซึ่งได้โอกาสลงสนามเล่นแบบไร้ความผิดพลาดและน่าจะเป็นแท็คติคต้นแบบให้ต่อยอดในแมตช์ต่อๆไป
“มันเป็นการทำงานแบบโดดเด้งของผู้เล่นที่ถูกส่งใช้งานนัดนั้น” คาร์ราเกอร์ ชม อาลีสซง เบ็คเกอร์, เจมส์ มิลเนอร์, ฟาบินโญ่, โฌแอล มาติป และ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน
“ก่อน ลิเวอร์พูล ลงสนามพบ เลสเตอร์ คนทั่วไปต่างพูดกันว่าพวกเขาคงเปลี่ยนวิธีการเล่นป้องกันไปสิ้นเชิง คงถอยต่ำกว่าทุกที 10-15 หลา แต่โดยส่วนตัวชมเกมที่ ‘หงส์แดง’ เล่นเมื่อไร้ ฟาน ไดค์ หลายนัด ก็ไม่ค่อยเห็นแท็คติคแบบที่เขาว่ากัน”
“ผมลองวิเคราะห์วิธีการที่ ลิเวอร์พูล จะรับมือ เจมี่ วาร์ดี้ ก็ไม่ได้มองว่าหากถอนต่ำลึกลงมาขนาดนั้น พวกเขายังยืนแบ็กไลน์สูง แต่วางคนรับงานผิดจากเดิมยกตัวอย่าง ฟาบินโญ่ ลงมาเป็นตัวซ้อนไม่ใช่ตัวชน”
“ใช่เรากำลังพูดถึงการส่งผู้เล่นกองกลางลงไปตรงนั้น แต่เขาก็ยังทำผลงานเด่นกับวิธีการดันแผงหลังสูง ไม่มีปัญหาเวลาวิ่งแข่งไปเก็บบอลลอยข้ามหัว สามารถโกยมาคุมแดนหลังเอาสถานการณ์อยู่”
ฟาบินโญ่ เล่นเซนเตอร์แบ็กเต็มเกมสี่นัดทุกรายการซีซั่นนี้สถิติชนะ 100%
