“กระทิงดุ” ทีมชาติสเปน ยังคงแข็งแกร่งต่อเนื่องแม้ปรับทัพหลายตำแหน่งหลัง เปิดบ้านถล่ม ทีมชาติสวีเดน 3-0 จากสองจุดโทษของ เซร์คิโอ รามอส และ อัลวาโร โมราต้า ส่วนประตูปิดกล่องเป็นของ มิเกล โอยาร์ซาบาล ทำสถิติชนะ 4 นัดรวด ยึดจ่าฝูงต่อเนื่อง ในศึกฟุตบอล ชิงแชมป์ยุโรป 2020 (รอบคัดเลือก กลุ่ม เอฟ) คืนวันจันทร์ที่ผ่านมา สล็อตออนไลน์
สนาม : ซานติอาโก้ เบร์นาเบว
ทีม ”ลา ฟูเรีย โรฆ่า” บุกไปเอาชนะหมู่เกาะแฟโร 4-1 ภายใต้การนำของผู้ช่วยเทรนเนอร์ โรเบร์โต้ โมเรโน่ เนื่องจาก หลุยส์ เอ็นรีเก้ ต้องดูแลปัญหาครอบครัวมาตั้งแต่เดือนมีนาคม โดยมีการติดต่อสื่อสารกันตลอด
ฝั่ง ยานเน่ อันเดอร์สสัน เทรนเนอร์ทีมชาตติสวีเดน นำทีมเอาชนะมอลตา 3-0 ในนัดที่แล้วก่อนไปเยือนสเปน เป็นงานหนักสุด นักเตะหลายคนถอนตัวไปก่อนโปรแกรมทีมชาติหนนี้ไม่ว่าจะเป็น มิคาเอล อิชัค กองหน้า, อันเดรียส กรานควิสต์ ปราการหลังกัปตันทีม, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ดาวเตะแมนฯ ยูไนเต็ด, โยนาธาน ออกุสตินส์สัน
10 นาทีผ่านของครึ่งเวลาแรกเป็นทัพ “กระทิงดุ” ที่ครองบอลมากกว่าแต่ยังไม่มีโอกาสซัดประตู ส่วน ขุนพล “ไวกิ้ง” ตั้งรับลึกและมีจังหวะได้ลุ้นก่อนแต่ยังไม่ตรงกรอบ
นาทีที่ 15 โอกาสแรกของเจ้าถิ่นเป็นของ ฟาเบียน หลุยส์ ได้จังหวะยืนปั่นด้วยขวาโล่งๆหน้ากรอบเขตโทษ บอลพุ่งเกือบเสียบสามเหลี่ยมยังดีที่ โรบิน โอลเซ่นผวาบินปัดออกหลังไปได้
2 นาทีต่อมาทัพ “กระทิงดุ” ส่งบอลไปซุกก้นตาข่ายจากการสอดขึ้นมาของ ดานี่ ปาเรโฆ่ ก่อนปาดเข้ากลางให้ โรดริโก้ ตามเข้าชาร์จง่ายๆไม่มีเหลือ แต่โชคร้ายผู้ตัดสินเป่าเป็นจังหวะล้ำหน้า
ช่วงท้ายครึ่งแรกเป็นเจ้าถิ่นโหมบุกหนักครองบอลถึง 80 เปอร์เซ็นต์แต่ยังไม่เฉียบคมในการจบสกอร์แถมไม่มีโชค ส่วนทัพ “ไวกิ้ง” มีโอกาสลุ้นทำประตูเพียง 2ครั้งและยังไม่ตรงกรอบอีกด้วย
หมดครึ่งเวลาแรก สเปน 0 สวีเดน 0
นาทีที่ 53 รูปเกมยังคงอึดอัดโดย สเปน มีลุ้นจากลูกเตะมุมของ ดานี่ ปาเรโฆ่ บอลหลุดมาถึง อีสโก้ ได้ยืน ฮาล์ฟวอลเล่ ด้วยขวาหน้ากรอบเขตโทษเฉี่ยวคานออกไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีต่อมา อีสโก้ พลาดโอกาสทองเป็นอีกครั้งหลังรับบอลจาก ดานี่ ปาเรโฆ่ ก่อนหลุดขึ้นมาทางฝั่งขวาแต่จังหวะยิงบดมากเกินไป หลุดเสาสองออกไปอย่างน่าเหลือเชื่อ
นานๆจะตอบโต้บ้างโอกาสยิงตรงกรอบครั้งแรกของ ทีมเยือน เป็น โรบิน ไควซอน เก็บบอลก่อนตะบันเต็มข้อระยะอันตรายแต่ดันไปตรงตัว เกปา อาร์รีซาบาลาก้า รับไว้ไม่มีพลาด
แต่แล้วนาทีที่ 64 ทัพ “กระทิงดุ” มาได้ประตูออกนำจากจังหวะของ มาร์โก อาเซนซิโอ เติมขึ้นมาสุดเส้นก่อนเปิดบอลไปติดแขน เซบาสเตียน ลาร์สสัน ผู้ตัดสินให้เป็น จุดโทษ ทันที และเป็น เซร์คิโอ รามอส รับหน้าที่สังหารไม่มีเหลือ สเปน 1 สวีเดน 0
ก่อนหมดเวลา 6 นาที สเปน มาได้ลูกจุดโทษที่สองของเกมนี้ โดยคราวนี้เป็น ฟิลิป เฮลันเดอร์ ไปเข้าพรวดใส่ อัลวาโร โมราต้า ก่อนเจ้าตัวลุกขึ้นมาสังหารเข้าไป สเปน 2 สวีเดน 0
ช่วงท้ายเกมนาทีที่ 87 เจ้าถิ่นมาได้ประตูปิดกล่องจาก มิเกล โอยาร์ซาบาล ที่ลงสนามมาเป็นตัวสำรอง ได้จังหวะลากบอลตัดเข้าในก่อนปั่นด้วยซ้ายเสียบตาข่ายงดงาม
จบเกม สเปน 3 สวีเดน 0 โดยทัพ “กระทิงดุ” ทำสถิติคว้าชัย 4 นัดรวดมี 12 คะแนนเต็ม ยึดจ่าฝูง ส่วน ทีมชาติสวีเดน รั้งรองฝูง มีแต้มเท่า โรมาเนีย แต่ “เฮด ทู เฮด” ดีกว่า
รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนามตัวจริง
สเปน (4-3-3) : เกปา อาร์รีซาบาลาก้า – ดานี่ การ์บาฆาล, เซร์คิโอ รามอส, อินญีโก้ มาร์ตีเนซ(ดีเอโก้ ยอเรนเต้ น.88), จอร์ดี้ อัลบา – ดานี่ ปาเรโฆ่, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, ฟาเบียน หลุยส์, – มาร์โก อาเซนซิโอ(อัลวาโร โมราต้า น.65), โรดริโก้(มิเกล โอยาร์ซาบาล น.71), อีสโก้
สวีเดน (4-5-1) : โรบิน โอลเซ่น – มิคาเอล ลุสติก, ฟิลิป เฮลันเดอร์, ปอนตุส ยานส์สัน, ลุดวิก ออกุสตินส์สัน – เอมิล ฟอร์สเบิร์ก, เซบาสเตียน ลาร์สสัน(อเล็กซานเดอร์ อิซัค น.82), อัลบิน เอ็คดาล(คริสโตเฟอร์ โอลด์สัน น.86), วิคตอร์ คลาสสัน(จาคอป โยฮานสันน์ น.27) – โรบิน ไควซอน – มาร์คุส เบิร์ก
