News Sport Betting

เจาะผลงานของ ชาบัค เป้าหมายของ แมนฯยู

ตลอดช่วงที่ผ่านมา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรชั้นนำแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตกเป็นข่าวกับเซนเตอร์แบ็กหลายคน หลังจากที่เกมรับของพวกเขาเปื่อยยุ่ยเหมือนทิชชู่เปียกน้ำจนทำให้เสียประตูหลายลูก พร้อมกับส่งผลให้ทีมมีผลงานที่ย่ำแย่ตามไปด้วย
แฮร์รี่ แม็คไกวร์, คาลิดู คูลิบาลี่, โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ ฯลฯ คือเหล่ากองหลังชื่อดังที่มีข่าวกับ แมนฯ ยูไนเต็ด แทบไม่เว้นวัน แต่มันก็ไม่มีใครที่มีแนวโน้มว่าจะย้ายมาอยู่กับ “ปีศาจแดง” จริงๆ โดยบางรายถึงขั้นส่อแววว่าจะย้ายไปอยู่กับทีมอื่นด้วย อย่างเช่น แม็คไกวร์ ที่ลือกันว่าจ่อไปซบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นต้น ทำให้ “เร้ด อาร์มี่” บางคนกลัวว่าสุดท้ายแล้วพวกเขาจะไม่ได้กองหลังหน้าใหม่แม้แต่คนเดียว

อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่นานมานี้ คิกเกอร์ สื่อของประเทศเยอรมนีระบุว่าที่จริงแล้ว แมนฯ ยูไนเต็ด กำลังให้ความสนใจในตัว โอซาน ชาบัค กองหลังดาวรุ่งของ เฟาเอฟเบ สตุ๊ตการ์ท อยู่ ซึ่งนี่ถือเป็นเป้าหมายเซอร์ไพรส์พอตัว เพราะ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่เคยมีข่าวกับแข้งรายนี้มาก่อน แถมมันยังถึงขั้นมีการเจรจากันแล้วด้วย zaborilenta.com

เป็นที่เชื่อกันว่า ชาบัค สามารถย้ายทีมได้ด้วยค่าตัวเพียง 13.4 ล้านปอนด์ (ประมาณ 549.4 ล้านบาท) เนื่องจาก สตุ๊ตการ์ท จะต้องตกชั้นไปเล่นในลีกระดับสองของเยอรมนีในฤดูกาลหน้า และวันนี้เราจะมาลองดูกันว่าผลงานของ ชาบัค กับ สตุ๊ตการ์ท มันดีแค่ไหน แมนฯ ยูไนเต็ด ถึงอยากได้เขาไปร่วมทีม

– การสกัดและตัดบอล
การสกัดถือเป็นคุณสมบัติที่สำคัญมากเป้นลำดับต้นๆ ของตำแหน่งกองหลัง ซึ่งในฤดูกาลก่อน วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ถือเป็นกองหลังที่ฟอร์มดีที่สุดของ แมนฯ ยูไนเต็ด และเขาก็มีค่าเฉลี่ยการเข้าสกัดแม่นยำ 1.3 หนต่อเกมในลีก เท่ากับ คริส สมอลลิ่ง อีกหนึ่งเซนเตอร์แบ็กของ แมนฯ ยูไนเต็ด

อย่างไรก็ตาม ชาบัค ทำได้ดีกว่าทั้งคู่เยอะ โดยหลังย้ายจาก กาตาลาซาราย มาอยู่กับ สตุ๊ตการ์ท ในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา เขาก็ได้เล่นเกม บุนเดสลีกา 15 นัด และมีค่าเฉลี่ยการเข้าสกัดแม่นยำถึง 2.2 หนต่อนัด ในขณะเดียวกัน เจ้าตัวก็เข้าสกัดพลาดไปเพียง 0.7 ครั้งต่อเกม

ยิ่งไปกว่านั้น ชาบัค ยังสามารถอ่านจังหวะได้ดีจนตัดบอลได้โดยที่ไม่ต้องเข้าสไลด์อยู่ที่เฉลี่ยแล้ว 1.5 หนต่อเกมด้วย ซึ่งผลงานดังกล่าวถือว่าดีกว่าทั้ง สมอลลิ่ง ที่ทำไป 1.1 ครั้งต่อนัด และ ลินเดอเลิฟ ที่ทำไป 0.8 หนต่อเกม

– การเอาตัวรอด
บางครั้งกองหลังจะโดนคู่แข่งบีบกดดันอย่างหนัก ซึ่งพอเจอสถานการณ์แบบนั้นคนที่เป็นกองหลังก็ต้องเลือกว่าจะทำยังไงถึงจะทำให้บอลหลุดจากพื้นที่อันตรายได้ อย่างเช่นการเตะบอลทิ้งไปไกลๆ หรือลากบอลหนี ซึ่งอย่างหลังถึงแม้มันจะดูเสี่ยงไปหน่อย แต่ถ้าลากหนีได้มันก็จะช่วยให้ทีมขึ้นเกมบุกต่อได้


ทั้งนี้ ชาบัค ถือว่าทำได้ดีพอตัวในด้านนี้ เพราะเขามีค่าเฉลี่ยการลากบอลผ่านคู่แข่งได้ 0.9 หนต่อนัด นอกจากนี้ เขายังเก็บบอลเอาไว้กับตัวได้ดีในระดับหนึ่ง จนสามารถเรียกฟาวล์ได้ 0.9 ครั้งต่อเกมด้วย ซึ่งมันก็ทำให้ทีมไม่เสียเปรียบมากนัก

– ลูกกลางอากาศ
หนึ่งในสิ่งที่เป็นที่ขึ้นชื่อลือชาของลีกอังกฤษคือเรื่องลูกกลางอากาศ ซึ่งทีมใน พรีเมียร์ลีก ที่มีกองหลังเล่นลูกกลางอากาศเก่งๆ ก็มักจะมีผลงานที่ดีตามไปด้วย อย่างเช่น ลิเวอร์พูล ที่มี เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ยอดปราการหลังชาวดัตช์ เป็นต้น


ทั้งนี้ ชาบัค จะสามารถเพิ่มความสามารถในส่วนนั้นให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้เป็นอย่างดี เพราะในการเล่น บุนเดสลีกา เมื่อซีซั่นล่าสุดนั้น เขาชนะในการดวลลูกกลางอากาศไปเฉลี่ยแล้ว 3.6 หนต่อเกม จากการขึ้นดวลลูกกลางอากาศเฉลี่ย 5.5 ครั้งต่อนัด

– ดีกรีเยี่ยม
ถึงแม้จะเพิ่งมีอายุแค่ 19 ปี แต่ ชาบัค ก็มีดีกรีชั้นยอดติดตัวแล้ว ไม่ว่าจะทั้งการได้รับเลือกให้เป็นผู้เล่นหน้าใหม่ยอดเยี่ยมของ บุนเดสลีกา ประจำฤดูกาล 2018-19 และการเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดของฤดูกาล 2018-19 ที่ได้เป็น แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก โดยในอันหลังเขาได้ตอนอยู่กับ กาลาตาซาราย ในเกมที่ทีมจากตุรกีเสมอกับ ชาลเก้ 04 ด้วยสกอร์ 0-0


นอกจากนี้ ถึงแม้จะยังไม่เคยได้เล่นให้ทีมชุดใหญ่ของทีมชาติตุรกี แต่เขาก็มีชื่อติดทัพ “ไก่งวง” มาแล้วหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็นรุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี, ไม่เกิน 16 ปี, ไม่เกิน 17 ปี และไม่เกิน 18 ปี โดยเขายังเคยถูกสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ยกให้เป็นหนึ่งใน 10 นักเตะที่น่าจับตามองของศึก ยูโร รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี ประจำปี 2017 ด้วย  thebeautythatlieswithin.com

Please follow and like us: